ภาพรวม
โตโยต้า บริษัทรถยนต์ผู้นำตลาดเมืองไทย เปิดตัว 2019 Toyota Commuter รุ่นใหม่ในราคาเริ่มต้น 1.269 ล้านบาท ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล GD บล็อก 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร สามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
2019 โตโยต้า คอมมิวเตอร์ เป็นรถประเภทรถตู้โดยสารที่ผลิตโดย โตโยต้า เปิดตัวในประเทศไทยในช่วงกลางปี 2562
All-New 2019 Toyota Commuter คือการปรับโฉมครั้งใหญ่ของรถตู้โดยสารของค่ายผู้นำตลาดอย่างโตโยต้า (Toyota) ที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 15 ปี และแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีผู้บริโภคต่างก็เฝ้ารอคอยการเปลี่ยนแปลงมานานแสนนาน
เจนเนอเรชั่นที่ 6 ของรถตู้โดยสารที่มีการเปลี่ยนโฉมในรอบทศวรรษครึ่งนี้ มาพร้อมกับความน่าสนใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรที่ถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยการเพิ่มระบบความปลอดภัยเข้ามามากมาย
แน่นอนว่าด้วยเบาะที่นั่งที่ให้มาถึง 15 ที่นั่ง นี่คือรถยนต์ขวัญใจผู้ที่ต้องการนำไปใช้ในการให้บริการขนส่ง หรือไม่ก็กลุ่มรถครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องพาผู้โดยสารเดินทางไปด้วยจำนวนมาก งานนี่้จะน่าสนใจเพียงใดนั้น มาติดตามไปพร้อม ๆ กับการทดสอบในครั้งนี้ได้เลย
ราคาจำหน่าย All-New 2019 Toyota Commuter | |
---|---|
Toyota Commuter 2.8 6MT | 1.269 ล้านบาท |
Toyota Commuter 2.8 6AT | 1.299 ล้านบาท |
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค 2019 Toyota Commuter | |
---|---|
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) | 1,950 x 5,915 x 2,280 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) | 3,860 |
รัศมีวงเลี้ยว (เมตร) | 6.5 |
เครื่องยนต์ | 1GD-FTV |
ความจุ (ซีซี.) | 2,755 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) | 163/3,600 |
แรงบิดสูงสุด | 420/1,600-2,200 |
ระบบส่งกำลัง | ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ |
ช่วงล่างด้านหน้า | แมคเฟอร์สัน สตรัท |
ช่วงล่างด้านหลัง | แหนบซ้อน พร้อมโช็คอัพ |
ระบบเบรก 4 ล้อ | ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 70 |
รองรับเชื้อเพลิง | ดีเซล บี 20 |
ภาพภายนอก
ขนาดตัวถังใหญ่โตเอาเรื่อง Toyota Commuter
Toyota Commuter ใหม่ มาพร้อมขนาดตัวถังที่ดูใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา ตัวรถมาพร้อมมิติกว้าง 1,950 มิลลิเมตร ยาว 5,915 มิลลิเมตร สูง 2,280 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อ : 3,860 มิลลิเมตร แต่แม้ตัวถังจะใหญ่โต่ แต่ก็คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 6.5 เมตรเท่านั้น
เมื่อเทียบกับตัวถังรุ่นที่ผ่านมา จะพบว่าขนาดของ Toyota Commuter ใหม่นั้นกว้างขึ้น 70 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 535 มิลลิเมตร เตี้ยลง 5 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม 750 มิลลิเมตร เรียกว่าเพียงพอต่อการจัดวางพื้นที่ในห้องโดยสารให้มีความสะดวกสบายครบครันมากขึ้นในโฉมปัจจุบันนี้
ตัวรถที่ใหญ่โตขึ้นมาพร้อมกับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด โดยมาพร้อมโครงสร้างนิรภัย Annular Frame Structure แบบวงแหวน และโครงสร้างตัวถังแบบ Semi-Bonnet Cab ที่วางเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้ารถ กระจายน้ำหนักและมีความแข็งแรงมากขึ้น

ภายนอก Toyota Commuter ดูเรียบหรู บึกบึน
การออกแบบภายนอกรถของ Toyota Commuter ใหม่นั้น เน้นความบึกบึนแข็งแกร่งด้วยลายเส้นที่ออกแบบมาอย่างลงตัว การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในตำแหน่งต่าง ๆ สมกับที่เป็นรถตู้โดยสารขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์ Commuter คันนี้อย่างสูงที่สุด
ตัวถัง Toyota Commuter มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีขาวและสีเงิน เมทัลลิก ที่จะต้องเพิ่มเงินอีก 6,000 บาท มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมดูโดดเด่น กันชนหน้า กันชนหลังและกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้่ยว สีเดียวกับตัวรถทั้งหมด มาพร้อมล้อกระทะพร้อมฝาครอบขนาด 16 นิ้ว ที่สวมยาง 235/65 R16C มาพร้อม
โคมไฟหน้าส่องสว่างด้วยไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ฮาโลเจน มาพร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า และไฟเบรกดวงที่ 3 เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยกระจกมองล้อด้านหลังและกระจกส่องด้านท้าย ติดตั้งระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง พร้อมที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า และด้านหลัง
การออกแบบภายใน
ภายใน Toyota Commuter เน้นการโดยสารสูงสุด
การขยายตัวรถออกไปให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับห้องโดยสารและเบาะโดยสารากสุดถึง 15 ที่นั่งคือจุดขายของ Toyota Commuter ใหม่ ที่มาพร้อมเบาะนั่ง 5 แถว หุ้มด้วยผ้าทั้งหมดโดยเบาะนั่งคนขับ สามารถปรับด้วยมือได้ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
เบาะนั่งแถวที่ 2 และแถว 3 จำนวนแถวละ 3 ที่นั่ง สามารถปรับเอนได้ ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 4 แบบ 3 ที่นั่งไม่สามารถปรับได้ เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 2 ที่นั่งและ 2 จุด 13 ที่นั่ง เสริมคามปลอดภัยในทุกตำแหน่ง มาพร้อมบันไดขึ้น-ลง พร้อมไฟส่องสว่าง เพื่อความสะดวกในการใช้รถ
พวงมาลัยแบบยูรีเทน แบบปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา แยกด้านหน้า-หลัง พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังบนเพดาน พื้นที่เก็บของด้านบนเหนือศีรษะ ช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง กระจกหน้าต่างไฟฟ้า มาพร้อมค้อนนิรภัยสำหรับทุบกระจก
องค์ประกอบ
เครื่องยนต์และช่วงล่างนุ่มนวล Toyota Commuter
Toyota Commuter ลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ มาประจำการในรถตู้รุ่นล่าสุดของพวกเขา โดยเครื่องยนต์ดีเซล วีเอ็น-เทอร์โบ แบบ 4 สูบ รหัส 1GD-FTV มาพร้อมระบบคอมมอนเรล ไดเรกต์ อินเจคชั่น ปริมาตรกระบอกสูบ 2,755 ซีซี. เป็นทางเลือกเดียวสำหรับรถโดยสาร Commuter รุ่นนี้
เครื่องยนต์ดังกล่าวสามารถรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถรองรับเชืเอเพลิงได้สูงสุดถึงน้ำมันดีเซล บี20 ทั้งแรงทั้งรักโลก
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช็คอัพ ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อน เครื่องยนต์และช่วงล่างเซตอัพมาสำหรับการบรรทุกผู้โดยสารแบบเต็มจำนวน เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ให้ความมั่นใจมากขึ้น
ข้อดีและข้อเสียของ Toyota Commuter
ข้อดี
- ดีไซน์ทันสมัย พร้อมกับความทันสมัยและเด่นมากกว่าก่อน ไฟหน้าไฟท้ายก็ดูดีลงตัวกับรูปลักษณ์ ดีไซน์สปอร์ตและยังคงเอกลักษณ์หลังคาสูงโปร่งไว้อย่างดี
- ภายในกว้างขวาง ภายในพื้นกว้างขวาง และตอบโจทย์การใช้งานผู้ขับพอสมควร มีช่องแอร์ในทุกแถว คอนโซลก็ออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมง่าย ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่ให้ครบครัน
- สมรรถนะเครื่องยนต์ทรงพลัง รถนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี และรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20
- ช่วงล่างนุ่มและให้ความคล่องตัวดี ดีไซน์โครงสร้างเป็นแบบวงแหวนที่มีความแข็งแรง การขับขี่ Toyota Commuter 2019 นุ่มนวล ไม่กระแทก องศาล้อที่หันได้มากขึ้น ทำให้การขับขี่มีความคล่องตัว
- หาอุปกรณ์ง่าย เนื่องจาก Toyota Commuter 2019 เป็นรถตู้ที่ประกอบในไทย ทำให้สามารถหาอุปกรณ์ของ Toyota Commuter 2019 ไม่ว่าจะเปลี่ยนหรือซ่อมจะซ่อมก็ทำได้ง่าย
ข้อเสีย
- เบาะโดยสารนั่งไม่สบาย เบาะนั่งผู้โดยสารของ Toyota Commuter 2019 มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยเฉพาะแถว 2 และ 3 เนื่องจากออกแบบให้สามารถปรับพับได้ จึงทำให้นั่งไม่ค่อยสบายตัว
- รถเปล่าวิ่งกระด้าง ถ้าหาก Toyota Commuter 2019 เป็นรถเปล่าวิ่งไม่มีคนโดยสารหรือไม่ได้บรรทุกของ เวลาขับช่วงล่างก็จะสั่นสะเทือนพอสมควร
- เบรกตอบสนองเร็วไป แค่แตะเบรกเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เบรกกะทันหันได้ จึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แม้ว่ามีอุปกรณ์ความปลอดภัยมาให้ครบครัน แต่ก็ไม่ควรประมาทอยู่ดี
- เข้าโค้งไม่ดี ถ้าหากขับเร็วจะต้องระวังเรื่องการเข้าโค้ง เพราะอาจหลุดโค้งได้ง่าย เวลาขับเร็วก็จะรู้สึกๆเสียวๆหน่อย ทางที่ดีควรชะลอความเร็วดีกว่า
- ไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่าง ไม่มีกล้องมองหลัง พวงมาลัยไม่ได้เป็นมัลติฟังก์ชั่น และไม่มีอุปกรณ์เครื่องเสียงซึ่งต้องติดตั้งเอง ซึ่งควรจะมีอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน
สรุป
หากนับช่วงเวลาของการปรับตัว 2019 Toyota Commuter ก็เลือกเวลาปรับได้ตัวค่อนข้างดี คือมีระยะเวลาทีห่างจากการปรับตัวของคู่แข่งพอสมควร ทำให้พวกเขาได้เปรียบในเรื่องของการดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้กลับมาเลือกซื้อรถ Toyota Commuter รุ่นนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นในท้องตลาด
ต้องยอมรับว่าการแข่งขันหลักของตลาดนี้อยู่ที่เรื่องของการบรรทุกผู้โดยสารและความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งโตโยต้าทำได้ดีในเรื่องของการสร้างรถขนาดใหญ่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเข้าไปจำนวนมาก แต่ยังทำให้รถของพวกเขารักษาความคล่องตัวเอาไว้ได้เหมือนเดิม
คนขับขี่ก็สะดวกสบายด้วยเครื่องยนต์แรงดี มีระบบช่วยเหลือ รัศมีวงเลี้ยวไม่เกะกะเกินไป ขณะที่ผู้โดยสารก็สดะวกสบายด้วยห้องโดยสารใหญ่โต ปลอดภ้ยด้วยอุปกรณ์มากมายที่เข้ามา ไม่แปลกใจเลย ถ้าหากจะเห็น 2019 Toyota Commuter วิ่งกันเกลื่อนถนนไปหมด